โดย ’รงค์ วงษ์สวรรค์ หนังสือ ๓ เล่มชุดที่ถูกจัดพิมพ์เพื่อเป็นการสะสมโดยเฉพาะ อีกทั้ง ๒ เล่มแรกนั้นยังไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน
แสงแดดเป็นไข้ พิมพ์ครั้งแรก ๒๕๕๒ สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จำนวนหน้า ๑๔๒ หน้า ปกอ่อน
ไฉไลเป็นบ้า พิมพ์ครั้งแรก ๒๕๕๒ สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จำนวนหน้า ๒๒๑ หน้า ปกอ่อน
ไม่นานเกินรอ พิมพ์ครั้งที่ ๒๕๕๒ (พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ๒๕๑๘) สำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม จำนวนหน้า ๑๗๗ หน้า ปกอ่อน
สภาพหนังสือ :
แสงแดดเป็นไข้ ขอบล่างมีรอยปากกาเล็ก ๆ โดยรวมสภาพดีมาก
ไฉไลเป็นบ้า ไม่ผ่านการใช้งาน ขอบบนมีคราบฝุ่นสีน้ำตาล โดยรวมสภาพดีมาก
ไม่นานเกินรอ ขอบล่างมีรอยปากกาเล็ก ๆ รองปกมีลายเซ็นเจ้าของเดิม โดยรวมสภาพดีมาก
แสงแดดเป็นไข้
เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในสามเล่มผลงานของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ประกอบด้วย “แสงแดดเป็นไข้” “ไฉไลเป็นบ้า” และ “ไม่นานเกินรอ” จัดพิมพ์พร้อมกันเป็น ชุดที่ครอบครัว ’รงค์ วงษ์สวรรค์ และ ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ตั้งใจทำเพื่อการอ่านและเก็บสะสมโดยเฉพาะ
“แสงแดดเป็นไข้” เป็นผลงานที่ยังไม่เคยตีพิมพ์รวมเล่มมาก่อน เริ่มด้วย “หม่อมราชวงศ์นัดพบนักเลง” เมื่อ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช มีนักต้องพบกับ “ยาม” ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย โดยมี ’รงค์ วงษ์สวรรค์ อยู่ในเหตุการณ์แสนระทึก “นักเลงกับนักเลงเพดานสูงปานกัน นักเลงไม่หมิ่นนักเลง – ไม่อายนักเลง ทั้งหมายความต่อมาถึงความเป็นผู้ดีโดยไม่ข่มผู้อื่นอย่างไว้ยศ กิ้งก่าได้ทองหรือคางคกขึ้นวอนั้นบรรดาเขาเลื้อยคลานกันในทำเนียบว่ะ! พี่เหงี่ยมนั้นท่านก็สงบเสงี่ยมอย่างผู้บรรลุศิลแห่งนักเลง
บางเวลาผมสอดถามบ้าง คุณชายพยักหน้า แต่ถ้าผมพลาดพลั้งพูดทะลึ่งออกนอกขบวนท่านก็ถลึงตาไม่ดุด่าต่อหน้าคนอื่น – ก็อย่างนี้ใครจะไม่รัก? “กรุณา – ไม่ถามว่าใครเป็นครูของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ บางคนและหลายคนเรียกขานว่า หม่อมป้า ผมไม่ทะลึ่งฟ้าถลาดินปานนั้นจึงเรียกท่านตามแบบแผนการยกย่องราชนิกุลชายชั้นหม่อมราชวงศ์ว่า คุณชาย และไม่เคยผันแปรตราบถึงนาฑีนี้ด้วยความภักดี”
นอกจากคาราวะครูบาอาจารย์ “แสงแดดเป็นไข้” ยังเป็นงานเขียนในลักษณะ “รำพึงรำพัน” อันเป็นเอกลักษณ์ของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ที่โดดเด่นชวนคันคะเยอในหัวใจ “กำแพงไม่สำคัญกว่าคน....ใครผู้สร้างกำแพงด้วยกิเลสตัณหาพวกนั้นไม่เป็นแก่นสารอันยืนยง และจำนวนไม่น้อยไม่แตกต่างกับปรสิตเบียดเบียนสังคมอย่างไม่อับอาย แต่กลบเกลื่อนโดยอ้างเกียรติแห่งวงศ์สกุล คนเก็บเห็ดและคนขุดหน่อไม้ คนวางเบ็ดราวและคนเลี้ยงวัว คนลอกปอและคนปลูกข้าวฟ่าง คนจำนวนมากกว่าผู้เป็นคนในกำแพงนั้นต่างหากเป็นหัวใจของประเทศ”.....
ไฉไลเป็นบ้า
เป็นหนังสือเล่มหนึ่งในสามเล่มผลงานของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ประกอบด้วย “แสงแดดเป็นไข้” “ไฉไลเป็นบ้า” และ “ไม่นานเกินรอ” จัดพิมพ์พร้อมกันเป็น ชุดที่ครอบครัว ’รงค์ วงษ์สวรรค์ และ ฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ตั้งใจทำเพื่อการอ่านและเก็บสะสมโดยเฉพาะ
“ไฉไลเป็นบ้า” เป็นงานเขียนชิ้นสำคัญเมื่อครั้งที่ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ สวมวิญญาณนักข่าวหนุ่มไฟแรงสุดเท่ ตะลุยโรงถ่ายหนังจีนเชอร์ บราเดอร์ส ที่กำลังฮอตสุดๆ ในเวลานั้น เจาะลึกสัมภาษณ์ รัน รัน ชอร์ เจ้าของชอว์ บราเดอร์ส ศึกษาวิธีตั้งชื่อหนังจีนสุดฮิตสมัยนั้น การเซ็นเซอร์ ความลับในการทำซับไตเติล ตั้งแต่ยุคก่อตั้งชอว์ บราเดอร์ส และบทสัมภาษณ์ จอห์น วู ผู้ซึ่งในปัจจุบันกลายมาเป็นขวัญในฮอลลีวูดและนักดูหนังรุ่นใหม่ “พูดกันตามจริง ผมไม่จำเป็นต้องทำหนัง บริษัทของผมมีโรงหนัง 141 โรงมีสวนสนุก 10 สวน โรงถ่ายขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ ธนาคาร โรงแรม งานด้านการพิมพ์ และอื่นอีกหลายแขนง แต่..”
เขาชะโงกตัวออกมาข้างหน้า และในตาแวววามของความรู้สึกตื่นเต้น “เกี่ยวกับที่ดินและบ้าน คุณเริ่มต้นอย่างไรมันก็จบอย่างนั้น ผมอาจร่ำรวยและมีชิวิตอย่างไม่เดือดร้อน แต่มันไม่สนุกเหมือนทำเงินจากหนัง..” รัน รัน ชอว์ (รัน รัน ชอว์ ภูเขา ลมพัด --- ไม่ล้ม) “ผมไม่ใช่คนรุนแรง แต่ละแวกที่ผมเติบโตมันน่าสยดสยอง การทำร้ายและการฆ่า ฆ่ากันในหล่มโคลนหลังตะวันตกดิน ฆ่ากันบนผิวถนนกลางแดดผมเคยเห็นคนในละแวกบ้านโดนมีดสับเป็นท่อน คนบริสุทธิ์โดนยัดเยียดข้อหาและโดนตำรวจฆ่า คนเลวฆ่าคนเลวด้วยกันอ้างว่า – เลวกว่า” จอห์น วู....
ไม่นานเกินรอ
หนังสือเล่มหนึ่งในสามเล่มผลงานของ รงค์ วงษ์สวรรค์ ประกอบด้วย “แสงแดดเป็นไข้” “ไฉไลเป็นบ้า” และ “ไม่นานเกินรอ” จัดพิมพ์พร้อมกันเป็นชุดที่ครอบครัว รงค์ วงษ์สวรรค์ และฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ตั้งใจทำเพื่อการอ่านและเก็นสะสมโดยเฉพาะ
มีกี่คนที่รู้ว่าวลี “ไม่นานเกินรอ” มีที่มาจาก รงค์ วงษ์สวรรค์ เมื่อครั้งต้องรอคอยนิตยสาร “ต่วย ตูน” ที่ยังไม่ยอมวางแผงเสียที “ไม่นานเกินรอ” เป็นผลงานชิ้นเอกคลุกเคล้าอารมณ์ขันสุดละเมียดและแสบทรวงเข้าไส้ของ รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นบันทึกความในใจจากซอกหลืบลึกที่สุดของนักเขียนหนุ่มหัวก้าวหน้าในยุคนั้น ที่กำลังเพียรพยายามก่อร่างสร้างสไตล์งานเขียนที่เป็นตำนาน แต่กลับโดนถล่มเละเทะจากนักวิจารณ์ผู้โหดเหี้ยมที่นั่งกระดิกเท้าคอยพิพากษาอยู่บนยอดหอคอยงาช้างสูงส่งของยุคนั้นอย่างดุเดือด....
:: ข้อมูลจากสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์ม